ballvery.com
Menu

การศึกษาใหม่ในหนูช่วยอธิบายว่าทำไมไมโครไบโอมในลำไส้ของทารกที่กินนมแม่จึงแตกต่างอย่างมากจากของทารกที่กินนมผสม

พวกเขายังเป็นโปรไบโอติกที่ขายตามเคาน์เตอร์ที่ได้รับความนิยมอย่างสูง "ห้องปฏิบัติการของเราสนใจอย่างมากว่าอาหารมีปฏิสัมพันธ์กับไมโครไบโอมอย่างไร เพื่อทำความเข้าใจอย่างแท้จริงว่าคุณจะปรับอาหารให้มีผลดีต่อสุขภาพได้อย่างไร" จอห์นสันกล่าว "ในการศึกษานี้ เราสามารถเห็นได้ว่า ใช่ ไขมันในอาหารเหล่านี้ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของอาหารทารก [ที่กินนมแม่] มีปฏิสัมพันธ์ค่อนข้างรุนแรงกับไมโครไบโอมในลำไส้ ทารก Sphingolipids มาจากสามแหล่งหลัก: อาหาร; แบคทีเรียที่สามารถผลิตได้ และเนื้อเยื่อโฮสต์ส่วนใหญ่ จอห์นสัน พร้อมด้วยผู้เขียนคนแรก Min-Ting Lee นักศึกษาปริญญาเอก และ Henry Le นักวิจัยหลังปริญญาเอก ทั้งสองแห่งในห้องทดลองของ Johnson ได้สร้างเทคนิคในการติดตาม sphingolipids ในอาหารโดยเฉพาะเมื่อพวกมันผ่านเข้าไปในลำไส้ของหนู "เราสังเคราะห์ sphingolipid ที่เราเพิ่มเข้าไปในอาหาร" จอห์นสันกล่าว "มันเกือบจะเหมือนกับที่ได้มาจากน้ำนมแม่ แต่มีป้ายสารเคมีขนาดเล็ก เพื่อให้เราสามารถติดตามตำแหน่งของสฟิงโกลิพิดได้เมื่อหนูกินเข้าไป" จากนั้น Lee ก็ใช้ฉลากเรืองแสงที่ติดเซลล์หรือจุลินทรีย์ที่ดูดซับไขมันที่ติดแท็กไว้ เพื่อให้แบคทีเรียที่จับสฟิงโกลิพิดติดสว่างเป็นสีแดง จุลินทรีย์จากไมโครไบโอมของหนูจะถูกแยกและวิเคราะห์ ประชากรที่มีจุลินทรีย์สีแดงถูกแยกออกจากกลุ่มอื่น จากนั้นจึงจัดลำดับพันธุกรรมเพื่อระบุชนิดของแบคทีเรีย จากการตรวจสอบเพิ่มเติม Le สามารถระบุสารเมแทบอไลต์ที่แบคเทอรอยเดสและบิฟิโดแบคทีเรียมผลิตเมื่อสัมผัสกับสฟิงโกลิพิดในอาหาร การตรวจสอบเพิ่มเติมกำลังดำเนินการเพื่อตรวจสอบว่าสารที่ผลิตจากจุลินทรีย์เหล่านี้มีประโยชน์ต่อสุขภาพของทารกหรือไม่ จอห์นสันเพิ่งได้รับรางวัลวิจัย Maximizing Investigators' Research Award ระยะเวลา 5 ปีมูลค่า 1.9 ล้านดอลลาร์จากสถาบันสุขภาพแห่งชาติ (NIH) เพื่อต่อยอดงานนี้ เพื่อให้เข้าใจได้ดีขึ้นว่าปฏิกิริยาระหว่างโฮสต์กับจุลินทรีย์ที่ขึ้นกับไขมันส่งผลต่อสุขภาพของมนุษย์อย่างไร.. การศึกษาได้รับการสนับสนุนโดยกองทุนเมล็ดพันธุ์จาก Genomics Facility ของศูนย์ทรัพยากรเทคโนโลยีชีวภาพที่ Cornell's Institute of Biotechnology

โพสต์โดย : ppp ppp เมื่อ 22 ก.พ. 2566 14:24:17 น. อ่าน 121 ตอบ 0

facebook