ฝนตกชุกที่สุดของป่าแอมะซอน

จากข้อมูลของนักวิจัย ป่าแอมะซอนกักเก็บคาร์บอนไว้ระหว่าง 10-15 เปอร์เซ็นต์ของคาร์บอนที่พืชพรรณทั่วโลกกักเก็บไว้ และมีบทบาทสำคัญในการกักเก็บคาร์บอนซึ่งอาจจะอยู่ในชั้นบรรยากาศ การสร้างแบบจำลองเปิดเผยว่าเมื่อพืชมีความเสี่ยงต่อการตายของพืชในฤดูแล้งเพิ่มขึ้น ความสามารถของต้นไม้ในการกักเก็บคาร์บอนจะลดลงอย่างมาก พื้นที่ที่เน้นน้ำมากที่สุดในอเมซอนอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ การวิเคราะห์พบว่าต้นไม้ในบริเวณนี้ไม่ได้ทำหน้าที่เป็นที่เก็บคาร์บอนขนาดใหญ่อีกต่อไป  "การศึกษานี้แสดงให้เห็นว่าความเสี่ยงของป่าต่อภัยแล้งแตกต่างกันอย่างไรทั่วทั้งลุ่มน้ำ แอมะซอน  และเป็นกลไกในการทำนายความสมดุลของคาร์บอนในระดับพื้นที่ป่า ป่าที่ 'ปลอดภัย' จากการตายที่เกิดจากภัยแล้งจะสะสมคาร์บอนมากกว่าป่าเหล่านั้น ที่เผชิญกับความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตจากภัยแล้งมากขึ้น ศาสตราจารย์ผู้ดูแลการศึกษาร่วมกล่าวเสริมว่า "รูปแบบของความยืดหยุ่นและความเสี่ยงที่ระบุในประชากรต้นไม้ที่แตกต่างกันในการศึกษานี้จะถูกนำมาใช้เพื่อสร้างแบบจำลองสภาพภูมิอากาศที่มีประสิทธิภาพและแม่นยำยิ่งขึ้นของ วิธีที่แอมะซอนอาจเปลี่ยนไปเมื่อภูมิภาคนี้ตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ" การศึกษาเกี่ยวข้องกับทีมนักวิจัยนานาชาติจากยุโรป บราซิล เปรู และโบลิเวีย งานนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ TREMOR ซึ่งได้รับทุนสนับสนุนจากสภาวิจัยสิ่งแวดล้อมธรรมชาติแห่งสหราชอาณาจักร เพื่อทำความเข้าใจกลไกการตายของต้นไม้ในป่าอเมซอน และปริญญาเอกของ Julia ได้รับการสนับสนุนจาก CAPES (การประสานงานเพื่อพัฒนาบุคลากรระดับอุดมศึกษา) ประเทศบราซิล