ต้องยอบว่าในช่วงที่ ซาลาห์ ไม่อยู่ โชต้า ถือเป็นความหวังในแดนหน้าอย่างแท้จริง ขณะที่ นูนเญซ สามารถสวมบทหน้าเป้าได้ดี และยังโดดเด่นเมื่อขยับไปยืนทางริมเส้นฝั่งซ้าย 2. ดาวรุ่งมรดกล้ำค่าจาก คล็อปป์
จาร์เรลล์ ควอนซาห์, คอเนอร์ แบรดลี่ย์ และ เจมส์ แม็คคอนเนลล์ ได้โอกาสลงสนามพร้อมกัน ซึ่งนั่นเป็นการแสดงให้เห็นว่า นายใหญ่ชาวเยอรมัน มีความเชื่อมั่นในศักยภาพของทั้ง 3 ดาวรุ่งเหล่านี้มากขนาดไหน
สำหรับ ควอนซาห์ และ แบรดลี่ย์ ตอนนี้สามารถก้าวขึ้นมาเป็นกำลังสำคัญของทีมได้แล้ว หลังจากที่พิสูจน์ศักยภาพของพวกเขาให้เห็นมาแล้วทั้งในเกมลีก, ฟุตบอลถ้วยในประเทศ และยูฟ่า ยูโรปา ลีก
เชื่อว่ามรดกที่ คล็อปป์ ทิ้งเอาไว้ให้ไม่เพียงแค่การวางรากฐานที่เข็มแข็งให้กับทีมเท่านั้น แต่พวกนักเตะดาวรุ่งเหล่านี้จะมีขึ้นมาให้เห็นอย่างต่อเนื่อง และเป็นกำลังหลักของทีมในอนาคต
3. ตัวหลักกลับมาพร้อมฟิตสมบูรณ์
ก่อนหน้านี้ "หงส์แดง" ต้องเจอวิกฤตินักเตะตัวหลักโดนโรคเดี้ยงเล่นงานทั้ง โดมินิค โซโบซไล, เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน และ คอสตาส ซิมิกาส
สำหรับตอนนี้ โซโบซไล, อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ และ โรเบิร์ตสัน กลับมาฟิตสมบูรณ์ และได้ลงเล่นเป็นตัวสำรองในแมตช์นี้ พร้อมกับโชว์ฟอร์มได้ดีทั้งหมดด้วย ดังนั้นเชื่อว่าในแมตช์เยือน เชลซี เกมลีก วันพุธที่ 31 ม.ค. คงได้เห็นพวกเขาลงเล่นตัวจริงแน่นอน 4. "รองเทรนต์"+แบรดลี่ย์ เล่นคู่กัน
สิ่งที่แฟนบอลลิเวอร์พูลอย่างเห็นมากๆ ในตอนนี้ก็คือ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ลงสนามพร้อมกับ แบรดลี่ย์ เพราะนั่นหมายความว่าจะเป็นนิมิตหมายที่ดีสำหรับการปรับแท็กติคของ คล็อปป์ แบบเต็มสูบ
เหตุผลที่ กุนซือเลือดด๊อยท์ช ยังไม่สามารถจับ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ยืนตำแหน่งมิดฟิลด์เต็มตัว เพราะเขายังหาคนที่จะมาทำหน้าที่แบ็กขวาไม่ได้ แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าทุกอย่างน่าจะลงตัวแล้ว เมื่อ แบรดลี่ย์ ตอบโจทย์ที่รอคอยมานานได้สำเร็จ
การได้เห็น คล็อปป์ เปลี่ยนตัว สตาร์ชาวอังกฤษ ลงสนามโดยที่ไม่ถอด แบรดลี่ย์ ออก เป็นการบ่งบอกว่าเขาพร้อมที่จะจับ "รองเทรนต์" สวมบทมิดฟิลด์แล้ว และเกมนี้เจ้าตัวก็ไม่ทำให้ผิดหวัง เพราะฟอร์มการเล่นโดดเด่นมากๆ ทั้งการเล่นที่มีอิสระ, จ่ายบอลแม่นยำ และมีโอกาสยิงไกล ด้วย
"เดอะ เร้ดส์" เดินหน้าเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้าย ศึกเอฟเอ คัพ ขณะเดียวกันพวกเขายังทะลุเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ เกมคาราบาว คัพ พบ เชลซี ส่วนในศึกพรีเมียร์ลีก ก็รั้งตำแหน่งจ่าฝูง และยูฟ่า ยูโรปา ลีก ได้เล่นในรอบน็อกเอาต์
ฉะนั้นในแมตช์ต่อไปที่จะพบกับ เชลซี ในเกมลีก แม้จะเป็นเกมที่ยากลำบากเพราะต้องไปเยือนถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ แต่ด้วยภารกิจพิชิตความฝัน งานนี้คงได้เห็นการสู้แบบถวายหัวเพื่อ "บอส"