ทั้งยังผลงานในสนามของภูตะวัน ยังนับว่าไม่ธรรมดา เนื่องจากจอมฟาดดาวรุ่งวัย 22 ปีรายนี้ ปัดกวาดแชมป์ทุกรายการที่ลงแข่งขันจนกระทั่งนำมาซึ่งการทำให้ชื่อของเขา ไปเข้าตา อำเภอ หัวใจ ตันกิมหงษ์
หัวหน้าคนฝึกกลุ่มชาติไทย ใส่ชื่อเป็น 1 ใน 20 นักตะกร้อชายไทย ที่ได้เข้าแคมป์เก็บเนื้อเก็บตัวกลุ่มชาติ เท่านั่นยังน้อยเกินไป ดาวรุ่งวัย 22 ปี ได้ถูกส่งชื่อเป็น 1 ใน 12 คนในที่สุด ฝ่าศึกกีฬาซีเกมส์ 2021 ที่ ประเทศ เวียดนาม ประเภทสร้างความฮือฮาไปอีกทั้งแวดวงตะกร้อ
จากความเพลิดเพลินกลายเป็นเป็นความเป็นจริงเป็นจัง
“ภูตะวัน โสภา” ถือกำเนิดเกิเขึ้นมาบนดาวโลกช่วงวันที่ 8 มิถุนายน 2543 เป็นชาว อำเภอป่า จังหวัดอำนาจเจริญ มีป๊ะป๋ารับราชการตำรวจ อย่างกระบี่ตำรวจสุพล โสภา และก็แม่สายคิดถึง โสภา รวมทั้งมีน้องสาวหนึ่งคนชื่อ พรรณิรินทร์ โสภา
ทางสายตะกร้อของภูตะวัน เริ่มขึ้นจากกำเนิดความสัมพันธ์กับกีฬาประเภทนี้ตั้งแต่ครั้งเยาว์วัย โดยเจ้าตัวเล่าว่า พ่อรู้สึกชื่นชอบสำหรับในการเล่นตะกร้อ ก็เลยติดตามพ่อไปบริหารร่างกายในทุกๆเย็น ซึ่งทำให้เขาได้ซับสู่เชื้อสายแบบไม่ทันรู้ตัว จนถึงแปลงเป็นความชื่นชมกีฬาประเภทนี้
“ผมเริ่มเล่นตะกร้อจากศูนย์ เริ่มด้วยแค่เพียงต้องการเตะให้โดนลูก และก็มีพ่อรอสอน แต่ว่าก็มิได้เอาจริงเอาจังอะไร จนถึงตอนผมเรียนอยู่ เปรียญ4 ในตอนเวลาเย็นๆผมถูกใจไปนั่งพักผ่อนที่โรงยิมฯ ของสถานที่เรียน (สถานที่เรียนป่าเรียนรู้ อำเภอป่า จังหวัดอำนาจรุ่งโรจน์) เพื่อไปดูพวกรุ่นพี่เขาเตะตะกร้อกัน ก็ไปวันแล้ววันเล่าแต่ว่ามิได้ลงเล่น แต่ว่าอยู่มาวันนึงกลุ่มขาดคนภายในสนาม “อาจารย์ชายหนุ่ม” วรวุฒิ บำเพ็ญ ที่เป็นผู้ฝึกสอนในขณะนั้นก็เลยเรียกผมลงไปเล่นด้วย และก็โน่นเป็นจุดที่ทำให้ผมเริ่มมุ่งมั่นกับการเล่นตะกร้อ”
“ที่จริงแล้วในตอนนั้นยังเด็กก็มิได้คิดอะไร ทราบเพียงแค่ว่าต้องการเล่นกีฬา แม้กระนั้นพอเพียงมาเล่นตะกร้อก็มีความรู้สึกว่ามันสนุกสนาน เป็นกีฬาที่ท้า ยิ่งมองเห็นพวกรุ่นพี่ที่ขึ้นฟาดได้ มันต้องการทำเป็น และก็คิดสิ่งเดียวต้องการเล่นให้ได้เสมือนพี่ๆเขาบ้างเพียงแค่นั้น”
“ในขณะนั้นคุณครูชายหนุ่ม ผู้ฝึกสอนคนแรกของผม พากเพียรสอนให้ผมตั้งอกตั้งใจ หากต้องการเล่นกีฬาเก่ง จะต้องมีวิมัย เพราะว่ามันจะช่วยสามารถสร้างงานสร้างอาชีพให้ตัวเราได้ รวมถึงจังหวะติดกลุ่มชาติด้วย ซึ่งมันทำให้เกิดความรู้สึกว่าพวกเราจะต้องเอาจริงเอาจัง รวมทั้งจำต้องเล่นตะกร้อให้เก่งให้ได้”
“อย่างไรก็ตามเนื่องจากว่าสถานศึกษาของผมมีเด็กอยู่เพียงแค่ 300 คนรวมทั้งมีนักกีฬาอยู่แม้กระนั้นไม่กี่คนทำให้คุณครูชายหนุ่มมอุตสาหะเขี่ยวเข็นทุกคนให้เก่งให้ได้ เนื่องจากว่าครั้งใดก็ตามไปแข่งขันเราไม่เคยชนะคนใดกันแน่ได้เลยแพ้กลับมาตลอด ทำให้ทุกวี่วันๆก่อนฝึก คุณครูชายหนุ่มจะเริ่มการซ้อมให้ผมและก็เพื่อนฝูงในกลุ่มด้วยการเดาะตะกร้อวันละ 2 พันครั้ง อีกทั้งก่อนแล้วก็ข้างหลังฝึกทุกๆวัน และก็ห้ามทำลูกตะกร้อตกเกิน 5 ครั้ง ถ้าตกเกินก็เริ่มนับใหม่ ซึ่งผมทำแบบงั้นอยู่เป็นปี”
จากการฝึกฝนอย่างมากทำให้สุดท้ายทำให้ กลุ่มสถานศึกษาของผมก็ชนะได้เป็นแชมป์ตะกร้อกลุ่มลำพัง ของจังหวัดอำนาจรุ่งโรจน์ รุ่นอายุ 12 ปี คราวแรกทำให้ได้เป็นผู้แทนไปชิงชัยรายการ สพฐ.และก็ถัดมาก็ได้แชมป์ตะกร้อ สำหรับในการแข่งกีฬาหน่วยงานดูแลส่วนท้องถิ่น ที่จังหวัดจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งทำให้ผมรู้สึกต้องการตั้งใจจริงกับกีฬาตะกร้อมากขึ้นเรื่อยๆตามไปด้วย
ความรู้สึกที่เสมือนฝัน
จากผลงานอันเหมาะสมที่สุดกับ อีกทั้งสมาพันธ์ตะกร้ออำนาจเจริญก้าวหน้า แล้วก็ สมาพันธ์อากาศโยธิน รวมกับ ท่าทางเชิงชั้นฟาดลูกตะกร้อที่ไม่ธรรมดา ทำให้ชื่อของ “ภูตะวัน โสภา” แปลงเป็นที่รู้จักมากเพิ่มขึ้นในแวดวงตะกร้อ กระทั่งทำให้คนภายในแวดวงตะกร้อออกมาสรรเสริญว่า เขาเป็น “นิวพรชัย” โน่นก็เลยยิ่งให้เขาโดนจับต่างดูมากขึ้นเรื่อยๆ จนถึงไปสะดุดตา “สตาฟฟ์ผู้ฝึกสอนกลุ่มชาติ”
เรียกไปสู่แคมป์เก็บเนื้อเก็บตัวกลุ่มชาติไทยเพื่อเข้ามาฝึกและก็เป็น 1 ใน 20 แม่ทัพ ตัวเลือกไปฝ่าศึกกีฬาซีเกมส์ 2021 และก็นอกเหนือจากนั้นภูตะวันยังถูกเลือกเป็น 1 ใน 12 คน ผู้แทนกลุ่มชาติไทยไปฝ่ากีฬาซีเกมส์ สำหรับการถูกเรียกมาเข้าแคมป์กลุ่มชาติไทยทีแรก ในช่วงเพียง 5 เดือนเศษ
“ในเวลานั้นหัวหน้าคมกฤษ (คมกฤษ ทับแก้ว ผู้อำนวยการชมรมตะกร้ออากาศโยธิน) โทรมาพูดว่าผมมีชื่อถูกเรียกเขาแคมป์กลุ่มชาติไทย หนแรก ผมบอกตรงๆเลยว่าผมเกือบจะไม่เชื่อว่ามันเป็นความจริง เนื่องจากผมคิดว่าผมยังเด็กมากมายกับแวดวงตะกร้อ การมีชื่อติดกลุ่มชาติไทยใครๆก็ว่ามันเกิดเรื่องที่ยากมากมายๆผมตื่นเต้นแบบสุดๆนั่งงงงวยอยู่นานเช่นกัน เพราะเหตุว่ามันเป็นอะไรที่ทำให้ผมรู้สึกภูเขาไม่อย่างบอกผิด”
