เจ้าบ้าน – จิ้งจอกสยาม เลสเตอร์ซิตี้ ฟอร์มยังกลับไปสู่การออกนอกทะเลอีกครั้งหนึ่งเพราะก่อนหน้านี้อุตส่าห์ปลดล็อคเอาชนะมาได้ สุดท้ายแล้วก็เหมือนเดิม ไม่สามารถดึงโมเมนท์มาเปลี่ยนแปลงเกมส์ของตัวเองได้ เพราะล่าสุดแพ้ทางบอร์นมัธมา 2-1 แม้ว่าในเกมส์จะครองบอลได้มากกว่าแต่จังหวะจบสกอร์กลับน้อยกว่า แถมลูกเตะมุมก็ได้แค่ 2 ครั้งเรียกได้ว่า ครองบอลไปมาแล้วก็เสียบอลนั่นแหละ ปะติดปะต่อเกมส์ในแดนกลางไม่ได้ ผลงานมันก็เลยเป็นแบบที่เห็น ดูท่าแล้วหากนัดนี้แพ้อีกคิดว่าไปแน่อนาคตของร็อดเจอร์ถูกตัดหางทันที แม้ว่าเสมอยังต้องชั่งใจดูก่อนเลยว่าสามารถไปต่อได้จริงหรือ เพราะฉะนั้นนัดนี้ต้องหวังพึ่ง เจมส์ เมดิสัน, ยูริ เตอเลอมองส์ คอยขับเคลื่อนแดนกลาง แล้วอาศัยความไว ดาก้า เข้าทำปิดสกอร์ ที่สำคัญคือแนวรับไม่ควรพลาดอีกดั่งที่เคยเป็นมา

ทีมเยือน – ปราสาทเรือนแก้วที่เป็นอีกทีมหนึ่งที่ฟอร์มเอาแน่เอานอนไม่ได้ นัดไหนที่เล่นดีก็ดีใจหาย นัดไหนที่แกว่งก็เละสมใจ เพราะฉะนั้นก็บอกยากว่านัดนี้จะเป็นยังไง แต่ที่แน่ๆคือโดยรวมนั้นพวกเขาดีกว่าเจ้าบ้านอย่างแน่นอน ล่าสุดก็สามารถเอาชนะลีดส์ ยูไนเต็ดมาได้แบบหวุดหวิด 2-1 โดนขึ้นนำไปก่อนด้วย และช่วงก่อนที่จะได้ประตูตีเสมอก็โดนกดอยู่ฝ่ายเดียว จนตั้งหลักได้ถึงพลิกกลับมาขนะได้แบบสุดมันส์ สภาพความพร้อมของทีมตัวหลักก็ยังอยู่ครบครัน โดยเฉพาะ วิลเฟร็ด ซาฮา ที่ตอนนี้เป็นดาวซัลโวของทีม โดยยิงไปแล้ว 4 ประตู อีกคนคือ Edouard ที่ยิงสองลูกติดต่อกันแล้วในลีค เชื่อว่าวันนี้ก็คงได้ลงตัวจริงอย่างแน่นอน รูปแบบการเล่นวันนี้ก็เหมือนเดิมคือ 4-3-3 อาศัยเกมส์รุกที่ว่องไวเข้าโจมตี ดูแล้วทรงคล้ายๆกันกับเลสเตอร์เจ้าถิ่นเพียงแต่ คริสตัล พาเลซเป็นบอล direct มากกว่านะครับ เกมส์สวนกลับจะเป็นทีเด็ดในวันนี้

11 Players –

Leicester City (4-1-4-1) – Ward – Justin – Evans – Faes – Castagne – Soumare – Tielemans – Dewsbury – Maddison – Barnes – Daka

Crystal Palace (4-3-3) – Guita – Schlupp – Guehi – Andersen – Ward – Olise – Doucoure – Eze – Zaha – Ayew – Edouard

Missing Players –
Leicester City – Ryan Bertrand (Knee Surgery), Ricardo Pereira (Achilles tendon rupture), Caglar Söyüncü (Bruised Knee) 
Crystal Palace – Jack Butland (Fractured Finger), Nathan Ferguson (Achilles tendon problems)